วุ้นตาเสื่อม ควรกินอะไรดี มีวิธีดูแลดวงตาอย่างไร ?

วุ้นตาเสื่อม ควรกินอะไรดี

วุ้นตาเสื่อม (Vitreous Degeneration / Eye Floaters) เกิดจากความผิดปกติของวุ้นในลูกตา (Vitreous) เป็นของเหลวที่มีลักษณะคล้ายเจลใส ประกอบด้วยน้ำกว่า 99% ส่วนที่เหลือเป็นคอลลาเจนไทป์ 2, 9 ไฮยาลูรอนิกแอซิด และมิวโคพอลิแซกคาไรด์อีกหลายชนิด โดยบรรจุอยู่ในช่องว่างกลางดวงตา ถัดจากเลนส์ตา ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น วุ้นลูกตาก็จะเริ่มเสื่อมลง

ภาวะวุ้นตาเสื่อม ปัญหายอดฮิตของผู้สูงอายุ

ปัญหาโรคตาในผู้สูงอายุ อาจเริ่มมาตั้งแต่อายุ 50 ปี เพราะวุ้นภายในดวงตาจะเริ่มเหี่ยวลง หดรั้ง รวมตัวเป็นก้อนฝ้า เมื่อมีแสงเข้ามาตกกระทบ จะทำให้เห็นเป็นจุดดำในดวงตา ลอยไปมาได้ (Floaters) และยังมีบางส่วนที่อาจละลายกลายเป็นน้ำด้วย ถ้าวุ้นที่หดตัวดึงรั้งจอประสาทตา (Retina) ทางด้านหลังให้หลุดลอกออก ก็อาจทำให้เห็นเป็นแสงแฟลชวูบวาบร่วมด้วย ซึ่งความผิดปกติทั้งหมดนี้เรียกว่า โรควุ้นตาเสื่อม ที่พบได้กว่า 30% โดยเฉพาะในคนสายตาสั้น, ตาอักเสบ, เคยผ่าตัดตา และเคยประสบอุบัติเหตุที่ตา

วุ้นตาเสื่อม กินอะไรดี ? ที่จะช่วยชะลอความเสื่อมได้

ก่อนปี 2021 หากถามว่า วุ้นตาเสื่อม กินอะไรดี ? คงหาคำตอบได้ไม่ง่ายนัก เพราะหลักฐานทางการแพทย์ยังไม่ชัดเจน แต่หลังจากที่งานวิจัยของ Nutrition Research Centre Ireland ตีพิมพ์ในวารสาร Translational Vision Science & Technology ข้อมูลก็เริ่มกระจ่างมากขึ้น

เพราะการศึกษาฉบับนี้ (Floater Intervention Study, FLIES) ให้กลุ่มทดลอง (อายุเฉลี่ย 56 ปี) ทานอาหารบำรุงสายตาชนิดแคปซูล ที่ประกอบด้วยไลซีน 125 มิลลิกรัม (มก.), วิตามินซี 40 มก., สังกะสี 5 มก., ส้มซ่า 100 มก. และสารสกัดจากเมล็ดองุ่น 26.3 มก. วันละครั้งนาน 6 เดือน ผลปรากฏว่า วุ้นลูกตาบริเวณที่เกิดฝ้ามีพื้นที่ลดลง รู้สึกรำคาญจุดดำที่ลอยไปมาลดลง คุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้น สรุปว่าผลการรักษาประสบความสำเร็จสูงถึง 66% ซึ่งข้อมูลนี้มีประโยชน์กับผู้ที่มีปัญหาวุ้นตาเสื่อมเป็นอย่างมาก

🔸ไลซีน (Lysine)🔸

ไลซีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็น ที่มีส่วนในการช่วยผลิตคอลลาเจน ซึ่งอาจทดแทนคอลลาเจนในวุ้นลูกที่เสื่อมสภาพได้ ส่งผลดีต่อการดูแลโรคตาในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่พบว่า ไลซีนสามารถเร่งการซ่อมแซมแผลให้เร็วขึ้นด้วย

🔸วิตามินซี (Vitamin C)🔸

การทานวิตามินซี ถือเป็นวิธีดูแลดวงตาชั้นดีที่ทำได้ง่าย เพราะสารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้ มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ของโครงสร้างดวงตาได้หลายส่วน เช่น วุ้นลูกตา, กระจกตา, ตาขาว, เส้นเลือดในจอประสาทตา

🔸สังกะสี (Zinc)🔸

หลายคนอาจไม่ทราบว่า สังกะสีเป็นอาหารบำรุงสายตาที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะในดวงตาของเรา จะมีแร่ซิงค์อยู่จำนวนมาก ซึ่งช่วยในการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด และช่วยสร้างรงควัตถุของจอประสาทตา เพื่อป้องกันโรคตาบอดกลางคืน ทั้งยังช่วยสร้างคอลลาเจนในดวงตาขึ้นใหม่ด้วย

🔸ส้มซ่า (Citrus aurantium)🔸

นอกจากมีสารไซเนฟริน (Synephrine) ที่ทำให้ส้มซ่า (Bitter Orange) โดดเด่นในเรื่องของการลดน้ำหนักแล้ว ยังอุดมด้วยวิตามินซี ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สร้างหลอดเลือดใหม่ ทำให้การกำจัดของเสีย และการไหลเวียนเลือดดีขึ้น จึงสามารถนำมาดูแลโรคตาในผู้สูงอายุ อย่างโรควุ้นในตาเสื่อมได้อย่างดี

🔸สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Vitis vinifera Extract)🔸

วุ้นตาเสื่อม กินอะไรดี ? ขอแนะนำสารสกัดที่ได้จากเมล็ดองุ่น ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ออกฤทธิ์ได้อย่างหลากหลาย เช่น เพิ่มการไหลเวียนเลือด, บำรุงสมอง, ดูแลไต, ยับยั้งเชื้อโรค, ลดเสี่ยงมะเร็ง ซึ่งสำหรับสรรพคุณในการดูแลวุ้นตาเสื่อมนั้น คือช่วยยับยั้งการทำลายคอลลาเจน และยังมีสารฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทดแทนคอลลาเจนเดิมที่เสื่อมสภาพด้วย

วิธีดูแลดวงตา เพื่อช่วยถนอมสายตาตัวเอง

ปัจจุบันมีหลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เริ่มพบโรควุ้นลูกตาเสื่อม ในคนที่อายุน้อยลงกว่าเมื่อก่อน อย่างการเก็บข้อมูล ผู้ใช้สมาร์ตโฟนในสหรัฐอเมริกาจำนวน 603 คน อายุเฉลี่ย 29.5 ปี พบว่า 76% มีอาการของวุ้นในตาเสื่อมแล้ว ดังนั้นการเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะชาว Work from Home จึงเป็นเรื่องจำเป็น เช่น สวมแว่นตากันแสงสีฟ้า, คนที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ให้ใช้กฎ 20-20-20 คือพักสายตาทุก 20 นาที โดยการมองไกล 20 ฟุต นาน 20 วินาที, บริหารตาด้วยการนวดคลึงบนดวงตา และกลอกตาไปมา

จากข้อมูลข้างต้นพบว่า มีสารอาหารหลายชนิด ที่ช่วยดูแลอาการวุ้นตาเสื่อมได้ ซึ่งทั้งหมดมีบทบาทสำคัญ ในการสร้างคอลลาเจน แต่ถ้าคุณต้องการทานอาหารบำรุงสายตา ที่เป็นคอลลาเจนสำเร็จรูป FORTE Collagen คือหนึ่งในตัวช่วยชั้นดี เพราะมีคอลลาเจนไทป์ 2 แบบเดียวกับในวุ้นลูกตา มีคอลลาเจนไทป์ 1, 3 ที่จำเป็นสำหรับกระจกตาและตาขาว รวมถึงมีอาบาโลนคอลลาเจนและวิตามินซีด้วย ซองเดียวจบ ดูแลครบทุกส่วน !