โรคปวดเข่าเรื้อรัง (Chronic knee pain) ของผู้สูงอายุ พบได้ในหลายโรค ซึ่งอาจมีอาการเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป บางโรคทำให้มีอาการปวดตุ๊บ ๆ ปวดจี๊ด ๆ อาจปวดมากเวลาออกแรง ปวดมากตอนกลางคืน ในขณะที่บางโรค อาจทำให้มีอาการปวดแน่น ปวดตื้อ ๆ ตลอดเวลาได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลกระทบ ต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุทั้งสิ้น จึงเป็นปัญหาที่ควรต้องรีบดูแล
7 โรคปวดเข่าเรื้อรัง ในผู้สูงอายุ
1. ข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
โรคข้อเสื่อมในผู้สูงอายุ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีอาการปวดเข่าเรื้อรัง โดยสาเหตุเกิดจากกระดูกอ่อนข้อเข่าเสื่อมสภาพ ร่วมกับร่างกายผลิตคอลลาเจน ข้อเข่าลดลง ทำให้กระดูกอ่อนอักเสบ เป็นแผล และบางลงเรื่อย ๆ ประกอบกับมีการสร้างน้ำไขข้อน้อยลง ทำให้ผิวหน้าของกระดูกต้นขา และกระดูกหน้าแข้งสัมผัสกันโดยตรง ซึ่งนอกจากจะทำให้ปวดเข่าตอนกลางคืน ปวดเข่าแบบเรื้อรังแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงหกล้มอีกด้วย
2. เอ็นเข่าฉีกขาด (Ruptured patellar tendon)
เส้นเอ็นเข่า (Patellar tendon) ที่ยึดด้านล่างของสะบ้ากับกระดูกหน้าแข้ง เกิดการอักเสบได้บ่อย ในนักกีฬาที่ต้องกระโดด, สะบัดขา และเหยียดขาเป็นประจำ นอกจากนี้ยังพบได้ในผู้สูงอายุ ที่มีอาการข้อเข่าอักเสบบ่อย ๆ เกิดการบาดเจ็บซ้ำ ๆ จนเส้นเอ็น, กล้ามเนื้อ และโครงสร้างโดยรอบบอบบาง ยิ่งอายุมากขึ้น คอลลาเจน ข้อเข่าเสื่อมลง ยิ่งทำให้เอ็นข้อเข่าฉีกขาดได้ง่าย แม้ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรุนแรง
3. ถุงข้อเข่าอักเสบ (Knee bursitis)
บริเวณรอบข้อเข่าจะมีถุง (Bursa) ที่บรรจุน้ำหล่อเลี้ยงอยู่โดยรอบ ช่วยให้เส้นเอ็นและข้อต่อ เคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก คล่องตัว แต่ถ้าเกิดการใช้งานข้อเข่าที่มากเกินไป เช่น แม่บ้านที่คุกเข่าทำความสะอาดบ่อย, คนที่เล่นฟุตบอลเป็นประจำ หรือมีภาวะข้อเสื่อมตามวัย จะเป็นปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้ถุงข้อเข่าอักเสบได้ง่ายขึ้น จนทำให้มีอาการปวดเข่าตอนกลางคืน หลังผ่านการใช้งานมาตลอดวัน
4. ถุงน้ำหลังหัวเข่า (Baker's cyst / Popliteal Cyst)
ผู้สูงอายุบางท่าน อาจมีอาการปวดข้อพับขาเป็น ๆ หาย ๆ จนบางครั้งเข้าใจว่า เป็นอาการของโรคข้อเสื่อมในผู้สูงอายุ จึงไม่ได้รักษา แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจคลำพบก้อนที่หลังเข่า ยืดหยุ่นคล้ายยาง มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเกิดจากน้ำไขข้อไหลไปสะสมรวมกัน จนทำให้เกิดเป็นก้อนถุงน้ำ (Cyst) พบได้ในคนที่มีปัญหาข้อเสื่อม, กระดูกอ่อนฉีกขาด และข้ออักเสบจากทุกสาเหตุ บางครั้งอาจยุบหายได้เอง แต่หากมีขนาดใหญ่มาก อาจต้องทำการเจาะเพื่อระบาย
5. ข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ นอกจากจะพบมากในช่วงอายุ 20 – 30 ปีแล้ว ยังเกิดได้ในช่วงอายุ 50+ ปีด้วย มีสาเหตุจากภูมิคุ้มกันที่ทำลายเซลล์ตัวเอง ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มข้อทั่วร่างกาย นอกจากจะทำให้มีอาการปวดกระดูกตามข้อ ปวดข้อนิ้วมือนิ้วเท้าแล้ว ยังทำให้ข้อเข่าอักเสบเรื้อรังได้ อาจสังเกตว่า จะมีอาการปวดเข่ามากที่สุดตอนตื่นนอน
6. เก๊าต์ (Gouty arthritis)
เก๊าต์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง ที่เป็นสาเหตุสำคัญ ของอาการปวดเข่าเรื้อรังในผู้สูงอายุ เกิดจากระดับของกรดยูริกในเลือดที่สูง (Hyperuricemia) จนเกิดการสะสมตามข้อ นอกจากจะพบบ่อยที่บริเวณข้อนิ้วโป้งเท้าแล้ว (Podagra) ยังสามารถทำให้ปวดเข่าเรื้อรังได้เช่นกัน อาการมักคงอยู่นานหลายวันหรือเป็นสัปดาห์
7. มะเร็งกระดูก (Bone cancer)
มะเร็งของกระดูกต้นขา และกระดูกหน้าแข้งใกล้ข้อเข่า อาจทำให้มีอาการปวดกระดูก แล้วเจ็บร้าวลงมาที่เข่า จนเข้าใจผิดว่าเป็นอาการปวดที่เกิดจากเข่า แต่อาจแยกมะเร็งกระดูก กับอาการปวดเข่าทั่วไป โดยสังเกตจากอาการปวดเข่าตอนกลางคืน, ปวดเข่ามากจนตื่นกลางดึก, อาการปวดมักไม่สัมพันธ์กับการใช้งาน, มีก้อนขรุขระโตขึ้นจากกระดูก ซึ่งอาจพบร่วมกับอาการเบื่ออาหาร, น้ำหนักลด หรือมีไข้ต่ำ ๆ
รีบดูแลอาการปวดเข่า ข้อเสื่อมในผู้สูงอายุตั้งแต่วันนี้
การดูแลอาการปวดข้อเข่าเรื้อรัง ปวดกระดูกตามข้อในผู้สูงอายุ นอกจากจะนอนหนุนเข่า, พันผ้ายืดรอบเข่า, ประคบเข่าและรับประทานยาแล้ว ยังสามารถบรรเทาอาการปวด ร่วมกับเสริมความแข็งแรงของกระดูก, ข้อต่อ, เส้นเอ็น และน้ำไขข้อ ด้วยการรับประทานคอลลาเจน ข้อเข่าของ FORTE Collagen ได้อีกด้วย เพราะฟอร์เต้อุดมไปด้วยคอลลาเจนบำรุงกระดูก หรือคอลลาเจนไทป์ 2 ที่สกัดบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ทั้งยังมีคอลลาเจนไทป์ 1 และ 3 มีอาบาโลนคอลลาเจนและวิตามินซี ที่จะสามารถดูแลเส้นเอ็น, กล้ามเนื้อ, ผิวพรรณ และโครงสร้างอวัยวะภายในได้อย่างครอบคลุม ครบจบในซองเดียว
โรคปวดเข่าเรื้อรัง เป็นปัญหารบกวนชีวิตประจำวัน และคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุไม่น้อย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นคอลลาเจน ข้อเข่ายิ่งเสื่อมลง โครงสร้างรอบข้อเข่ายิ่งบอบบาง ทำให้การบำรุงด้วยคอลลาเจนเสริมกระดูก อย่างฟอร์เต้คอลลาเจน มีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรง ความยืดหยุ่นของข้อต่อ ช่วยยืดอายุการใช้งานข้อเข่าได้อีกนาน