1.ปกป้องโปรคอลลาเจนจากรังสียูวี
รังสียูวีบี (UVB Radiation) โดยเฉพาะจากแสงแดด ทำให้เกิดผิวแดงอักเสบและผิวไหม้แดดได้ โดยกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ (Reactive Oxygen Species, ROS) ภายในเซลล์ผิวหนัง (Keratinocytes) และทำให้เกิดการหลั่งสาร Metalloproteinases (MMPs) ซึ่งมีผลต่อการทำลายคอลลาเจนโดยตรง
จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food & Nutrition Research พบว่า คอลลาเจนเปปไทด์ในหอยเป๋าฮื้อ สามารถปกป้องโปรคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Type I Procollagens) จากการทำลายของรังสียูวีบีได้ เช่น กรดอะมิโนรูปแบบ Branched-Chain Amino Acids (BCAAs) อย่าง Leucine, Isoleucine, Valine โดยกดการทำงานของเอนไซม์ p38, c-Jun N-terminal kinases (JNK) และ Extracellular Signal-Regulated Kinases (ERK) ผ่านทาง Mitogen-Activated Protein Kinases (MAPKs) และ Nuclear Factor Kappa B (NF-κB) จึงสามารถยับยั้งการหลั่งสาร MMPs ทำให้โปรคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Type I Procollagen) ซึ่งเป็นสารต้นกำเนิดของคอลลาเจนกว่า 90% ในร่างกาย โดยเฉพาะผิว, ผม, เล็บ และกระดูก สามารถรอดพ้นจากการทำลายของรังสียูวีได้
2.เพิ่มการสร้างโปรคอลลาเจนของร่างกาย
มีการศึกษาพบว่า เมื่อร่างกายสัมผัสรังสียูวี จะทำให้สาร MMPs ที่เป็นตัวทำลายคอลลาเจน หลั่งเพิ่มขึ้นกว่า 50% จึงทำให้การสร้างโปรคอลลาเจนลดลงไปกว่า 40% ร่างกายจึงสร้างคอลลาเจนได้น้อยลงด้วย แต่เมื่อเพิ่มอะบาโลนคอลลาเจนเข้าไป จะเพิ่มการสร้างโปรคอลลาเจนขึ้นจากเดิมได้ จึงสามารถสรุปได้ว่า นอกจากคอลลาเจนเปปไทด์จากหอยเป๋าฮื้อ จะช่วยปกป้องโปรคอลลาเจนเดิมของร่างกายแล้ว ยังกระตุ้นการสร้างโปรคอลลาเจนขึ้นใหม่ หลังถูกทำลายจากรังสียูวี ร่างกายจึงได้คอลลาเจนที่สมบูรณ์ ที่พร้อมเติมเต็มให้กับผิวและกระดูก ในส่วนที่ขาดหายได้
3.กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
มีการวิจัยพบว่า อะบาโลนคอลลาเจน สามารถเพิ่มการผลิตเซลล์ต้นกำเนิด ของผิวหนังได้ (Epidermal stem cells) ซึ่งตรวจสอบได้จากจำนวนสารพันธุกรรม, การสร้างโปรตีน และการใช้พลังงานของเซลล์ที่มากขึ้น ผิวหนังจึงเกิดการผลัดเซลล์ด้วยเซลล์ที่สร้างใหม่ เร่งให้เซลล์ผิวเก่าลอกตัว ทำให้เผยผิวใหม่ที่สดใส และสมบูรณ์กว่าเดิม
4.เป็นสารตั้งต้นในการสร้างคอลลาเจน
โปรตีนที่มีอยู่ในหอยเป๋าฮื้อ สามารถถูกเอนไซม์ของร่างกาย ย่อยให้เป็นกรดอะมิโนขนาดเล็ก เพื่อใช้เป็นพลังงานให้กับร่างกายได้ นอกจากนี้ ส่วนที่เป็นคอลลาเจนเปปไทด์สายสั้น อย่างเช่น สายของ Alanine-Threonine-Proline-Glycine-Aspartic Acid- Glutamic Acid- Glycine (Ala–Thr–Pro–Gly–Asp–Glu–Gly, ATPGDEG) จะถูกย่อย เพื่อนำไปใช้เป็นสารตั้งต้น ในการสร้างคอลลาเจนสำหรับเซลล์ไฟโบรบลาสต์ต่อไป โดยเฉพาะกรดอะมิโน Proline และ Glycine ที่เป็นโครงสร้างตั้งต้น ของคอลลาเจนส่วนใหญ่ในร่างกาย ช่วยให้ผมและเล็บมันวาว, ผิวหนังยืดหยุ่น ดูนุ่มเด้ง อ่อนเยาว์ขึ้น, มวลกระดูกและกล้ามเนื้อจะถูกสร้างเพิ่มขึ้น, น้ำไขข้อและกระดูกอ่อนจะผลิตมากขึ้น ร่างกายโดยรวมจะเฟิร์มขึ้น ช่วยให้คุณเป็นคนใหม่ ที่มั่นใจกว่าเดิม
5.เร่งการซ่อมแซมแผล
อะบาโลนคอลลาเจน สามารถเร่งให้แผลเปิดหายเร็วขึ้น (Epithelization) ผลจากการนำไปทดสอบประสิทธิภาพ ในการรักษาแผลที่เกิดจากรอยกรีด เทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ เมื่อเวลาผ่านไป 6 ชั่วโมง กลุ่มที่ใช้อะบาโลนคอลลาเจน เกิดการสร้างเนื้อเยื่อที่มากกว่า และเมื่อครบ 12 ชม. เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้ถึงเกือบ 30% และจะได้ผลดียิ่งขึ้น หากเลือกใช้เป็นสารสกัดคอลลาเจนเปปไทด์ จากหอยเป๋าฮื้อที่มีขนาดเล็ก นอกจากประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน และสร้างเซลล์ผิวใหม่แล้ว อะบาโลนคอลลาเจน ยังช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ ช่วยเร่งให้คอลลาเจน บริเวณผิวไหม้แดดที่เสื่อมสภาพฟื้นตัวได้ดีขึ้น และยังช่วยทำให้แผลเปิดหายได้เร็วขึ้นอีกด้วย
6.ลดอัตราการทำลายดีเอ็นเอ
เมื่อผิวสัมผัสรังสียูวีจากแสงแดดเป็นเวลานาน จะทำให้ผิวภายนอกอักเสบ จนเกิดผิวไหม้แดดได้ แต่ภายในเซลล์ผิวหนังที่เรามองไม่เห็นนั้น จะเกิดการสร้างอนุมูลอิสระ ที่ทำให้โปรตีนในสายพันธุกรรมผิดรูป และแตกออก จนสายดีเอ็นเอมีโครงสร้างที่ผิดปกติไป ทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพและตายในที่สุด แต่เมื่อลองปกป้องเซลล์ ด้วยอะบาโลนคอลลาเจนพบว่า โครงสร้างของดีเอ็นเอผิดรูปน้อยลง จนใกล้เคียงดีเอ็นเอปกติเป็นอย่างมาก
7.บำรุงกระดูกให้แข็งแรง
คอลลาเจนเปปไทด์จากอะบาโลน ช่วยปกป้อง Type I Procollagen จากรังสียูวีได้ ทำให้ร่างกายมีโปรคอลลาเจนเพียงพอ สำหรับการสร้างคอลลาเจนในกระดูกและผิวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การที่อะบาโลนคอลลาเจนสามารถแตกตัวได้ ทำให้ร่างกายมีวัตถุดิบ ในการสร้างคอลลาเจนอีกหลากหลายชนิด จึงช่วยสร้าง Collagen Type I, II ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างกระดูกและกระดูกอ่อน ทั้งยังช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้กระดูกกร่อนตัวได้ จึงสามารถนำมาใช้เป็นอาหารป้องกันโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี
Abalone Collagen มีอยู่ในฟอร์เต้คอลลาเจนทุกซอง สูงถึง 440 มก. สกัดได้จากอวัยวะภายในของหอยเป๋าฮื้อ ซึ่งในส่วนนี้ให้โปรตีนสูงถึง 95% โดยมีกรดอะมิโนในรูปแบบ BCAAs ปริมาณมาก แต่สามารถผลิตให้มีขนาดเล็กกว่า 1,000 ดัลตันได้ ซึ่งถือว่า เล็กมาก เมื่อเทียบกับอะบาโลนที่มีขายอยู่ทั่วไป ทำให้สามารถดูดซึมได้ดี ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ FORTE Collagen ยังเลือกใช้กรดอะมิโนตัวสำคัญจากหอยเป๋าฮื้อ อย่าง Proline และ Hydroxyproline สูงถึง 22% ซึ่งเป็นกรดอะมิโนหลัก ที่จะใช้สร้างไตรเปปไทด์ (Proline-Hydroxyproline-Glycine, Pro-Hyp-Gly) ส่วนใหญ่ในร่างกาย เพื่อให้นำไปสร้างเป็นคอลลาเจน ที่ใช้ดูแลร่างกายได้ทุกส่วน โดยเฉพาะผิว, ผม, เล็บ, กระดูก, กระดูกอ่อน และน้ำไขข้อ
เป็นคอลลาเจนที่สกัดได้จากหอยเป๋าฮื้อ มีโปรตีนสูง, มีคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพหลายชนิด และมีกรดอะมิโน (Branched-Chain Amino Acids, BCAAs) ที่มีประโยชน์ ในกระบวนการสร้างคอลลาเจนเป็นอย่างมาก โดยช่วยสร้างโปรคอลลาเจนขึ้นใหม่ และปกป้องโปรคอลลาเจนที่มีอยู่เดิม ให้รอดพ้นจากการทำลายของรังสียูวี โดยช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ ทั้งยังช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่, เป็นสารตั้งต้นสำหรับการสร้างคอลลาเจนขึ้นเอง, ช่วยรักษาแผลเปิดให้หายเร็วขึ้น และดูแลลึกถึงระดับเซลล์ เพื่อไม่ให้เกิดการทำลายดีเอ็นเอ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงกระดูก, กระดูกอ่อน และน้ำไขข้อของร่างกายได้ ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เปลี่ยนร่างเก่าให้ฟิตและเฟิร์ม จนคุณเองสามารถรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงใน 14 วัน
อะบาโลนคอลลาเจน ปกป้องคุณจากรังสียูวีตัวร้าย ลดการทำลายโปรคอลลาเจน พร้อมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ปั้นคอลลาเจนให้ร่างกาย เร่งให้แผลหายเร็วได้ เพียงแค่ไว้ใจให้ FORTE Collagen ดูแล !